ชายไทยคงรู้จักหน้าที่ของตนเองดีเพราะสิ่งเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำนั่นคือการทดแทนบุญคุณพ่อแม่ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะบ่งบอกถึงความกตัญญูของตัวเองและส่งผลบุญแก่ผู้ให้กำเนิดเรา ซึ่งตอนบวชนั้นต่างรู้ดีกว่าการสวดมนขอพรหรือการให้พรจากพระนั้นจำเป็นต้องรู้คำสวนนั้นเองด้วย จากที่เราได้ยินนั้นหลายๆ คนคงเคยผ่านภาษานี้มาบ้างจากการเรียนธรรมมะหรือวิชาพระพุทธศาสนา นั้นก็รวมไปถึงความหมายที่บางท่านมิอาจรู้ได้ว่ามันแปลว่าอะไร เรามาลองดูประวัติของภาษนี้ดูก่อนครับ
ตามความเชื่อที่พูดต่อๆ กันมาชาวพุทธได้คิดเสมอว่าภาษาบาลีมีถิ่นกำเนิดที่แคว้นมคธ หรือที่เรียกว่ามาคธิกโวหาร
นักภาษาศาสตร์บางคนเล่าต่อว่าภาษาบาลีเป็นภาษาของอินเดียที่อยู่ทางภาคตะวันตก ที่มีการพัฒนามาอย่างยาวนานและได้มีการบันทึกภาษาบาลีในคัมภีร์พระพุทธศาสนา เถรวาท อยู่มากมาย นักปราชญ์ท่านหนึ่ง วิลเฮล์ม ได้เขียนหนังสือที่มีชื่อในสมัยศตวรรษที่ 19 เช่น pali literature und sprache โดยมีทฤษฎีทางพระพุทธอย่างที่คนไทยรู้จักกันดีเลยว่าภาษานี้นั้นอยู่ในพระไตรปิฎกนั้นสามารถแบ่งแออกได้ทั้งหมด 4 ยุค คือ
1.ยุคคาถา
2.ยุคร้อยแก้ว
3.ยุคร้อยกรองระยะหลัง
4.ยุคร้อยกรองประดิษฐ์
ทั้ง 4 ยุคนี้แสดงให้เห็นถึงการแต่งขึ้นจากพระคัมภีร์ได้หลายเล่มและมีการแพร่หลายอย่างมากด้วย
จนในปัจจุบันนั้นมีประเทศที่นับถือศาสนาพุทธเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น ไทย พม่า ลาว กัมพูชา ศรีลังกา และอินเดีย ไม่เว้นแต่ประเทศอื่นๆ อย่างอังกฤษที่สนใจศึกษาภาษาบาลีอย่างมากและชื่นชอบในพระพุทธศาสนาอีกด้วย สมัยนี้นั้นได้มีฝรั่งบางท่านได้เข้าบวชเพื่อศึกษาภาษาบาลีโดยตรงและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอีกด้วยเพราะภาษาบาลีนั้นถือได้ว่าเป็นคาถาอย่างหนึ่งที่จะสร้างบุญกุศลให้แก่พี่น้องหลายท่านเลย
